Shiro.02 ไตรภาคสุยถัง จิ่วถู/น.นพรัตน์


ไตรภาคสุยถัง ของ จิ่วภู

        เราหยิบนิยายเรื่องนี้มาอ่านหลังจากไม่ได้คลุกคลีนิยายจีนเรื่องใหม่ๆเลยมากว่า 3 ปี พบว่าจิ่วถูสามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่ผู้อ่านคุ้นเคย ให้ได้มุมมองใหม่ ที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน นอกจากเนื้อหาที่โอเคแล้ว คำนำของผู้แต่งก็เป็นสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจหยิบนิยายชุดนี้ลงตะกร้าเลยทีเดียว ส่วนเรื่องลดราคาเป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆเท่านั้น จริงๆ


<อ่านอย่างสบายใจได้เลยจ้า บันทึกนี้ไม่มีสปอยใดๆ>
.

ชุดไตรภาคสุยถัง ตอนที่ 1 : ยุทธการล่าบัลลังก์

酒徒 -  隋乱


เขียนถึง หลี่ซี ชุดนี้เราสารภาพ จำคำนำที่ลึกซึ้งไม่ได้ แต่ในหน้าตัวหนังสือนั้น มีหลายประโยคที่เราชอบมาก อ่านแล้วน้ำตาคลอ จิ่วถูเหมือนเป็น ตัวละครที่มีชีวิต เขียนเรื่องของตัวเองออกมา ความรู้สึก ไม่เหมือนมองจากบนฟ้า เหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เป็นความรู้สึกที่อยู่ในระดับสายตา พบเรื่องราวตรงหน้า

มีบทหนึ่งที่ชอบมาก ขอตัดคำบรรยายมาสั้นๆเท่าที่จำได้

"ยามนั้น มันอยู่บนกำแพงเมืองพาดฟันดาบเข้าใส่ข้าศึกที่จุ่โจมมา ข้าศึกนั้นลำตัวพลันฉีกขาดทะยอยล้มลง แต่ผู้คนทางด้านหน้ายังดาหน้าเข้ามาอย่างคลุ้มคลั่ง ผู้คนเหล่านั้นพลันผลักท่อนซุงกระแทกใส่หน้าอกมัน มันฟันดาบไปในทันที จากหนั้น มันเหม่อมองดายที่หงิกงอเป็นก้อนในมือขวา แล้วมองเท้า ที่ค่อยๆลอยออกจากกำแพงเมือง กำแพงที่มันหยั่งเท้าเมื่อสักครู่หดเล็กลงเรื่อยๆ มันพลันเข้าใจเรื่องราว ร้องตะโกนเป็นคำสุดท้ายออกมา"

"มันกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน จากบนเตียง มันมองเห็นท่านแม่ที่มีผมขาวประปราย คอยกุลีกุจอทำกับข้าวที่มันชอบ มองเห็นหลังท่านพ่อที่ปีก่อนยังแผ่กว้างราวต้นไม้ใหญ่เริ่มงองุ้ม มันรู้ว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือความรู้สึกของตนเอง ก่อนหน้านั้น 1 ปีมันยังเป็นเด็กหนุ่มไม่ได้ความ แต่เมื่อพริบตาที่เห็นบุพพาการี เริ่มแก่เฒ่า พริบตานั้นเหล่าลูกหลานก็ต้องบังคับตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น"

หรือ การพูดคุยระหว่าง ตัวเอกและช่างตีดาบ

ช่างตีดาบ "ไฉน มาเช้าถึงเพียงนี้ ข้าบอกให้มา ยาม 9 มิใช่เช้าตรู่"
หลี่ซี "...ข้า"
ช่างตีดาบ "เด็กน้อย คร่ำครึไปแล้ว คิดว่าข้าเป็นจูกัดเหลียงหรือไง หรือยังต้องทดสอบเจ้าด้วย ในเมื่อเราท่าน มีความจริงใจ ทดสอบไยกัน ไม่ต้องให้เจ้าระหว่างที่รอคอย อากาศหนาวเหน็บ ยังกร่นด่าข้าออกมา"
หลี่ซีรับคำพลางลอบยิ้มทีหนึ่ง ระหว่างที่รอ มันแอบด่าในใจไปหลายคำ

ยังมีมุมมองอีกหลายมุม ที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหน ขำขันไปอีกแบบ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยหลี่ซี เติบโตจากเด็กน้อยไม่รู้ความ เป็น นายกองที่เก่งกล้าและก็สัตย์ซื่อ เป็นแม่ทัพที่อาจหาญ และยังเรียนรู้เรื่องในแวดวงราชการ เป็นแม่ทัพครองเมือง ที่คำนึงถึงราษฎร ความขัดแย้งในใจมากมาย ทำให้หลี่ซีค่อยๆเรียนรู้ ทีละเล็กทีละน้อย

ชุดไตรภาคสุยถัง ตอนที่ 2 : ขุนโจรคู่บัลลังก์

酒徒 - 開國功賦 


"ประวัติศาสตร์ คือ เรื่องราวในอดีตที่ถูกบันทึกไว้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอันใดได้ บางเรื่องราวสุข บางเรื่องราวทุกข์ ในความสงบมีรอยยิ้ม ในสงครามมีรอยคราบน้ำตา จะดีกว่ามั้ย ถ้าหาก ตัวตนเล็กๆในหน้าประวัติศาสตร์เพียง 2 หน้า จะกระโดดโลดแล่นมีชีวิต เพื่อช่วยเหลือราษฏรเหล่านั้น ให้มีความหวังและผ่านทุกข์เข็ญช่วงสงครามไปได้"
เนื้อความประมาณนี้ เราย่อสรุปมาสั้นๆ แต่อ่านแล้วกรี๊ดเลย ในนิยายที่อ่านส่วนใหญ่ จะเขียนเรื่องเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่ จอมทัพผู้เกรียงไกร ขุนนางผู้ปราดเปรื่อง แต่พอได้อ่านคำนำหลายประโยคนั้น คนตัวเล็กๆ ที่ดูไม่สลักสำคัญ แท้จริงๆแล้วในประวัติศาสตร์ เขาต้องใช้ความพยายาม และความอดทนแค่ไหน เพื่อปกป้องชีวิต และพาทุกคนไปก้าวผ่านช่วงที่ลำเค็ญที่สุดของสงคราม ไปสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแห่งความหวังได้

เฉินเหวินจิ้ง ตัวเอกของเรื่อง เขาไม่ได้มีประสบการณ์พิเศษอะไร ความเก่งก็ไม่เท่ามาตรฐานพระเอกนิยายเท่าไหร่ แต่เขามี 2 สิ่ง คือ ความคิดที่จะดิ้นรนเพื่อรอดชีวิต และ ความยึดมั่นในหลักการ ดังนั้น เป้าหมายเขาคือ มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของการเปลี่ยนผ่านราชวงศ์ให้ได้ และต้องไม่ผิดต่อมโนธรรมในใจด้วย

เมืองเล็กๆของเฉินเหวินจิ้งเติบโตจากการให้ เขาพลิกฟิ้นเมืองร้าง โดนเผาจนวอดวาย ทุกที่มีกลิ่นอายของความตาย แต่เขาก็ทำให้เมืองกลับมีชีวิตได้อีกครั้ง เขาประกาศให้ที่พักอาศัย ที่ดินทำกินและให้ความปลอดภัย ผู้คนที่ประสบภัยสงครามทุกทิศก็ต่างเดินทางมาที่เมืองเขา น้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งที่คำมั่นสัญญาเป็นความจริง เราได้เห็นความหวัง ในใจพวกชาวบ้านลุกโชนขึ้นอีกครั้ง อยากขอบคุณเฉินเหวินจิ้ง จริงๆซักหลายที

ชุดไตรภาคสุยถัง ตอนที่ 3 : เทพบุตรกู้บัลลังก์

酒徒 - 盛唐煙雲  


"เรื่องราวกบฏอันเล่อซาน เพียงห่างจากยุครุ่งโรจน์ในสมัยของพระเจ้าถังไทจงแค่ อายุเด็ก8 ขวบ แก่ตัวลงเป็นชายสูงวัยเท่านั้น แปลว่ารอยยิ้มของคนคนหนึ่ง กลับกลายเป็นเศร้าสลดในบั้นปลาย ในความรุ่งโรจน์ ผู้คนยังหลงระเริงนั้น เมฆหมอกขุ่นมัวก็เริ่มทำหน้าที่ของมันแล้ว ถ้าหากมีใครไปตะโกนเตือน เหล่าเด็กชายหญิงที่ยิ้มเริงร่านั้น จะมีใครเชื่อหรือไม่"




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Shiro.10 : บทความนี้ขอมอบแด่ อี้ฉีจวิน ชายผู้บูชาความรัก

Shiro.03 เอี๊ยบไค VS. โป่วอั้งเสาะ

Shiro.06 : บันทึกซีรีย์จีน 01